ความหมายของอินเทอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต (Internet) นั้นย่อมาจากคำว่า “International
network” หรือ “Inter
Connection network” ซึ่งหมายถึง
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการสื่อสาร และการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน
โดยอาศัยตัวเชื่อมเครือข่ายภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยงเดียวกัน นั่นก็คือ
TCP/IP Protocol ซึ่งเป็นข้อกำหนดวิธีการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย ซึ่งโปรโตคอลนี้จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่มีฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันสามารถติดต่อถึงกันได้
การที่มีระบบอินเตอร์เน็ต
ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายข่าวสารข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้
โดยไม่จำกัดระยะทาง
ส่งข้อมูลได้หลายรูปแบบ
ทั้งข้อความตัวหนังสือ ภาพ และ เสียง โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัวเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนับเป็นอภิระบบเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่มาก
มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลกเชื่อมต่อกับระบบ
ทำให้คนในโลกทุกชาติทุกภาษาสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ โดยไม่ต้องเดินทางไป
โลกทั้งโลกเปรียบเสมือนเป็นบ้านหนึ่งที่ทุกคนในบ้านสามารถพูดคุยกันได้ตลอด 24
ชั่วโมง ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย แต่เกิดประโยชน์ต่อสังคมโลกปัจจุบันมาก
การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
การเชื่อมเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปหรือหน่วยงานขนาดเล็กจะใช้การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์
(Dial-Up Connection) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อแบบชั่วคราวหรือเฉพาะบางเวลา
ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งสิ่งที่จำเป็นในการเชื่อมต่อ มีดังนี้
1 เครื่องคอมพิวเตอร์
เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการส่งและรับข้อมูล
2 เว็บบราวเซอร์ เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการดึงข้อมูลมาจาเว็บเซิร์ฟเวอร์
ซึ่งจัดเก็บอยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า HTML (Hyper
Text Markup Language) และแปลความหมายของรูปแบบข้อมูลที่ได้กำหนดเอาไว้เพื่อนำเสนอแก่ผู้ใช้
3 หมายเลขโทรศัพท์และสายโทรศัพท์
สำหรับเป็นสื่อกลางในการส่งข้อมูลข่าวสาร โดยผู้ใช้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโทรศัพท์เพียง
3 บาทต่อครั้งของการเชื่อมต่อ
4 โมเด็ม
เป็นอุปกรณ์สำหรับแปลงสัญญาณข้อมูลของคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ในรูปแบบดิจิทัล (Digital) ให้เป็นสัญญาณข้อมูลรูปแบบแอนะล็อก (analog) และเมื่อเป็นผู้ส่งจะแปลงสัญญาณข้อมูลรูปแบบแอนะล็อกให้เป็นดิจิทัล
5 บริการชุดอินเทอร์เน็ตจากผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกขอเป็นสมาชิกเป็นรายเดือน
รายปี หรืออาจเป็นการซื้อชุดอินเทอร์เน็ตแบบสำเร็จรูป
โดยคิดค่าใช้บริการเป็นหน่วยชั่วโมง บริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
เช่น ทีโอที กสท โทรคมนาคม ทีทีแอนด์ที
ล็อกอินโฟ 3BB เป็นต้น
รูปแบบของการให้บริการทางอินเตอร์เน็ต
รูปแบบการให้บริการของอินเตอร์มีดังนี้
1. Electronic
Mail (E-mail) เป็นรูปแบบการให้บริการที่ให้ผู้ใช้งาน รับ-ส่ง ข้อมูลหรือ แมสเสจ(Message) ที่เป็นข้อความไปยังผู้อื่นผ่านทางอินเตอร์เน็ต
นอกจากนี้ผู้ส่งยังสามารถส่งไฟล์อื่นๆไปพร้อมกับแมสเสจนี้ได้ด้วย
2. World
Wide Web(www) เป็นรูปแบบการให้บริการที่เป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นกราฟิกที่แสดงเว็บเพจจาก
สถานที่ต่างๆซึ่งคุณสามารถอ่านข้อมูล ดาวน์โหลดไฟล์ ดูหนัง ฟังเพลง
เติมข้อมูลในฟอร์ม โต้ตอบกับแอปพลิเคชัน(ที่เรียกว่า “applets” หรือ script)และค้นหาข้อมูล โดยแต่ละเว็บเพจจะมีแอ็ดเดรส(address) เฉพาะที่ไม่เหมือนกัน
ทำให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดหรือดูเว็บเพจได้ด้วยเว็บบราวเซอร์(Web
Browser) แอ็ดเดรสที่ว่านี้เรียกว่าURL(Uniform
resource Locator) ซึ่งจะเริ่มต้นด้วย http:wwww.microsoft.com เป็นแอ้ดเดรสของบริษัทไมโครซอฟ
เป็นต้น
3. File
Transfer Protocol(FTP) เป็นรูปแบบการให้บริการผู้ใช้สามารถรับ-ส่งไฟล์(เรียกว่าดาวน์โหลด (Download) และอัพโหลด(Upload)) จากคอมพิวเตอร์หนึ่งไปอีกคอมพิวเตอร์หนึ่ง
ส่วนมากเซิร์ฟเวอร์ของFTP จะยอมให้ดาวน์โหลดหรือ อัพโหลดเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
หรือในบางเซิร์ฟเวอร์จะให้อิสระในการเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์ เช่น www.sharewera.com เป็นต้น
4. Gopher เห็นรูปแบบการให้บริการที่เป็นไฮเปอร์ลิงค์เพื่อช่วยเหลืดผู้ใช้งานในการค้นหาไฟล์หรือเอกสารที่ต้องการบนอินเตอร์เน็ต
5. Internet
Relay Chat ( IRC ) เป็นรูปแบบการให้บริการที่ให้ผู้ใช้งานสามารถพูดคุยหรือสนทนาแบบออนไลน์กับ
ผู้ใช้งานคนอื่นที่ล็อคอินเข้ามาในเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการ
6. Telnet เป็นรูปแบบการใช้คอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลโดยใช้คอมพิวเตอร์อื่นในลักษณะ
รีโมตคอนโทรล
ซึ่งหมายถึงผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเข้ามานั่งทำงานที่คอมพิวเตอร์แต่อย่างใด
เพียงแค่สั่งงานจากคอมพิวเตอร์ที่เรียกใช้บริการ Telnet เท่านั้น ส่วนใหญ่คอมพิวเตอร์ที่ถูกเรียกใช้งานมักจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี
ประสิทธิภาพสูง เช่น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์
หรือเครื่องระดับเวิร์คสเตชันที่อาจจะอยู่หางไกลจากผู้ใช้คนละประเทศซึ่งไม่
มีปัญหาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต สำหรับการเรียกใช้งานแบบนี้
ผู้ใช้จะต้องมีโปรแกรมที่สนับสนุนการใช้งานแบบนี้ เช่น Telnet เป็นต้น
7. UseNet เป็นรูปแบบการให้บริการที่คล้ายกับบอร์ดแจ้งข่าวสาร
ซึ่งจะมีข้อมูลที่แจ้งให้ผู้อื่นทราบหรืออาจจะเป็นการประชาสัมพันธ์ UseNet มาจากคำว่าUser Network ซึ่งรูปแบบการให้บริการแบบนี้จะมีเซิร์ฟเวอร์ ที่เรียกว่า “ นิวส์ เซิร์ฟเวอร์ ”(News
Server) ส่วนข้อมูลที่ติดประกาศนั้นจะคล้ายกับอีเมล์ที่ส่งมายังนิวส์เซิร์ฟเวอร์
นั่นเอง เนื่องจากมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากจึงได้มีการแบ่งกลุ่มเล็กๆ ที่เรียกว่า “ นิวส์กรุ๊ป” (New Group) ส่วนข้อความที่ส่งเข้าไปเรียกว่า “ บทความ ”
(Article) สำหรับการส่งบทความข้นไป
หรือเข้าไปอ่านบทความก็ต้องมีโปรแกรมเฉพาะในการใช้งาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น